รับสร้างบ้านชั้นเดียว ที่ไหนดีที่สุด ต้องการสร้างบ้านทั้งที หลายๆคนคงอยากได้บ้านที่สร้างแล้วมีความสุข บ้านที่มีความคุ้มค่า บางคนก็มีบ้านในฝันเป็นบ้านชั้นเดียว ไม่ต้องมีหลายชั้น บ้านชั้นเดียวเป็นคำตอบที่ดีที่สุดได้เหมือนกัน
บริษัทสร้างบ้านชั้นเดียวลำปาง
บริษัทรับสร้างบ้านชั้นเดียวลำปาง
บริษัทรับสร้างบ้านชั้นเดียวราคาถูกลำปาง
แบบบ้านชั้นเดียวพร้อมราคาก่อสร้างลำปาง
รับสร้างบ้านชั้นเดียวลำปาง
ปลูกบ้านชั้นเดียวลำปาง
สร้างบ้านชั้นเดียวราคาถูกลำปาง
สร้างบ้านงบน้อยชั้นเดียวลำปาง
รับสร้างบ้านชั้นเดียวโมเดิร์นลำปาง
รับสร้างบ้านชั้นเดียวยกพื้นลำปาง
สร้างบ้านไม้เก่าชั้นเดียวลำปาง
ไอเดียสร้างบ้านชั้นเดียวลำปาง
รับเหมาสร้างบ้าน ชั้นเดียวลำปาง
1. ความร้อนในบ้าน
บ้านชั้นเดียวมักมีปัญหาเรื่องความร้อนภายในบ้าน เพราะเพดานในบ้านอยู่ติดกับหลังคา ความร้อนถึงถ่ายเทเข้าบ้านโดยตรง ซึ่งป้องกันได้ด้วยการติดฉนวนกันความร้อนหรือติดแผ่นสะท้อนความร้อน
2. ใช้พื้นที่มาก แต่พื้นที่ใช้สอยน้อย
หากมีพื้นที่หน้าดินอย่างจำกัด บ้านชั้นเดียวอาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก เพราะจะทำให้พื้นที่ใช้สอยน้อยเกินความต้องการ เราแนะนำว่าหากดูคร่าวๆ แล้ว วางผังบ้านชั้นเดียวไม่ลงตัว บ้าน 2 ชั้นอาจจะเหมาะสมมากกว่า
3. ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว
เพราะบ้านชั้นเดียวมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ทุกฟังก์ชันจึงอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ช่วงที่แขกหรือเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ก็จะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่นัก เพราะจากห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกก็สามารถเข้าสู่ห้องนอนได้โดยตรง
4. ความปลอดภัยน้อยกว่าบ้าน 2 ชั้น
อีกปัจจัยที่ค่อนข้างสำคัญคือบ้านชั้นเดียวจะมีความปลอดภัยน้อยกว่าบ้าน 2 ชั้น แมลง สัตว์เลื้อยคลานเข้าบ้านได้ง่าย รวมทั้งโจร ขโมยก็เข้าถึงภายในตัวบ้าน และผู้อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าค่ะ
จะเห็นได้ว่าบ้านชั้นเดียวมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน โดยก่อนซื้อบ้าน เราควรพิจารณาว่าต้องการฟังก์ชันแบบไหน จุดมุ่งหมายในการซื้อบ้านเพื่ออะไร และมีเรื่องไหนที่เรากังวลบ้างค่ะ
ข้อดี-ข้อเสีย บ้านชั้นเดียว
หาก บ้านชั้นเดียว เป็นหนึ่งในตัวเลือกบ้านหลังใหม่ของคุณ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าบ้านประเภทนี้มีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไรบ้าง ทาง Gurubaan ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้คุณแล้วค่ะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วางแผนจะสร้าง บ้านชั้นเดียว แล้วละก็ อันดับแรกเลยคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า รูปแบบบ้านประเภทนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง เหมาะกับคุณและสมาชิกในครอบครัวมากน้อยแค่ไหนดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราจึงได้รวบรวมจุดเด่นและจุดด้อยของบ้านชั้นเดียวมาฝากกันค่ะ
จุดเด่น
1.เดินสะดวก
เนื่องด้วยบ้านชั้นเดียวถูกออกแบบมาให้ทุกห้องอยู่ชั้นเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ฯลฯ จึงทำให้การเดินไปไหนมาไหนภายในบ้านเกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เช่น เมื่อคุณหิวน้ำขึ้นมากลางดึก ต้องลงบันไดมายังห้องครัว ถ้าไม่ทันระวังจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หรือการขึ้นลงบันไดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพข้อเข่า แถมยังต้องเสียเงินค่ารักษา ปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่อาศัยในบ้านชั้นเดียวแน่นอนค่ะ
2.เหมาะกับผู้สูงอายุ
เมื่อครอบครัวของคุณมีกลุ่มคนหลากหลายอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้พิการ แบบบ้านสวย การเดินขึ้นลงบันไดนั้นอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องความไม่สะดวก โดยเฉพาะกับผู้สูงวัย ผู้ป่วยที่ต้องใช้วีลแชร์เคลื่อนที่ไปยังห้องต่างๆ ภายในบ้าน ส่วนเด็กเล็กนั้นเป็นวัยที่กำลังซุกซน หากคุณเผลอไม่ทันระวัง เด็กอาจจะปีนป่ายบันไดทำให้ตกลงมาได้รับบาดเจ็บได้
3.ง่ายต่อการทำความสะอาด
บริษัทรับสร้างบ้าน หากคุณมีบ้านหลังใหญ่หลายชั้น การทำความสะอาดจึงเป็นภาระอันหนักอึ้งของสมาชิกภายในบ้าน คุณอาจจะต้องใช้เวลาทำความสะอาดนานพอสมควร ถ้าต้องทำความสะอาดคนเดียวแล้วละก็ มีหวังสลบก่อนทำเสร็จแน่ๆ แต่ถ้าเป็นบ้านชั้นเดียว การทำความสะอาดง่ายมาก เพราะไม่ต้องคอยยกของขึ้นลง ปัดกวาดถูแป๊บเดียวก็เสร็จ หากจะต้องซ่อมบำรุงส่วนต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทาสีซ่อมแซม ทำความสะอาดผนังภายนอก หรือการเปลี่ยนหลังคา ก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องคอยปีนบันไดสูงๆ และไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุตกจากที่สูง
4.ประหยัดงบประมาณ
รับออกแบบบ้าน การมีบ้านเพียงแค่ชั้นเดียว แน่นอนว่าคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้มาก เนื่องด้วยการวางโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน ใช้วัสดุน้อยกว่าบ้านหลายชั้นเกือบเท่าตัว บ้านที่มีหลายชั้นก็จะมีค่าตกแต่งเพิ่มขึ้น ทั้งค่าสี วอลเปเปอร์ หรือผ้าม่าน ซึ่งการเลือกบ้านชั้นเดียวจะทำให้คุณประหยัดส่วนนี้ไปได้มาก สไตล์การตกแต่งบ้านก็ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว ว่าของที่นำมาตกแต่งจะเข้ากับสไตล์บ้านไม่ได้
5.เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดี
สิ่งที่สัมผัสได้ของครอบครัวที่มีบ้านตั้งแต่สองชั้นขึ้นไป คือ คนในบ้านไม่ค่อยมี รับสร้างบ้านตามแบบปฏิสัมพันธ์กัน รับสร้างบ้านราคาถูก สาเหตุนั้นมาจากต่างคนต่างต้องการความเป็นส่วนตัว ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้อง จะเห็นกันก็ตอนกินข้าว ไม่อยากเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าบ้านของเรามี 3 ชั้น และต้องเดินขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา มันจะเหนื่อยแค่ไหน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวที่มีบ้านชั้นเดียว จะเดินไปหยิบอะไรก็ทำได้ง่าย แถมเจอหน้ากันบ่อยๆ ถ้าคุณออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณกลางบ้าน ก็จะทำให้สมาชิกในครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันได้สะดวก และทำให้คนในบ้านมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นด้วย
6.การต่อเติมในภายหลัง
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องขยายห้อง คุณสามารถต่อเติมได้ด้วยการขยายห้องจากด้านข้างของบ้าน เนื่องด้วยโครงสร้างของบ้านชั้นเดียว มีความเหมาะสมที่จะทำการต่อเติมมากกว่าบ้านสองชั้นที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่า รับสร้างบ้าน แต่หากคุณจะเปลี่ยนบ้านชั้นเดียวให้กลายเป็นบ้านสองชั้น น่าจะเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย เพราะต้องจ้างวิศวกรมาคำนวณโครงสร้างหรือเสาเข็ม ว่าสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน จริงๆ การต่อเติมด้วยการขยายพื้นที่เพิ่มจากด้านข้างของตัวบ้าน ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
จุดด้อย
1.ใช้พื้นที่มาก
การสร้างบ้านชั้นเดียวจะต้องใช้ที่ดินมากกว่าการปลูกบ้านสองชั้น จึงจะได้จำนวนห้องที่พอดีต่อการใช้งาน ซึ่งคุณอาจจะต้องเสียเงินค่าซื้อที่ดินเพิ่มมากขึ้น และถ้าซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ มีหวังกระเป๋าฉีกแน่นอน แต่หากซื้อที่ดินต่างจังหวัด ก็จะช่วยประหยัดเงินไปได้มากค่ะ ดังนั้น การจะสร้างบ้านสักหลัง อย่าลืมคำนึงถึงขนาดพื้นที่เป็นหลักก่อนลงมือสร้างนะคะ เพื่อให้มีพื้นที่พอเพียงต่อการใช้สอยนั่นเอง
2.ปัญหาความร้อน
เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย โครงสร้างส่วนเพดาน และหลังคาบ้านจึงเกิดการสะสมความร้อนเอาไว้ และแผ่ความร้อนไปยังห้องต่างๆ ได้ง่าย ถ้าอยากให้บ้านหายร้อนก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ คุณแค่ติดฉนวนกันความร้อน แผ่นสะท้อนความร้อน หรือเปิดช่องหลังคาเพื่อระบายอากาศ เท่านี้บ้านของคุณก็เย็นขึ้นแล้วค่ะ แต่การติดวัสดุกันความร้อนทั้งหมดนี้ ก็จะมีงบประมาณที่เพิ่มขึ้นมาด้วยนะคะ
บ้านชั้นเดียว ข้อดี ข้อเสีย
3.ปัญหาน้ำท่วมและความชื้น
เนื่องจากบ้านชั้นเดียวมีการปลูกสร้างยกสูงไม่ห่างจากพื้นดินเท่าไรนัก จึงอาจเสี่ยงกับปัญหาน้ำท่วมบ้านได้ พูดกันง่ายๆ ก็คือ น้ำท่วมเมื่อไรก็เผ่นลูกเดียว เพราะไม่มีชั้นสองให้นอนพัก นอกจากนั้นยังมีเรื่องความชื้นของดิน ที่จะส่งผลเสียต่อโครงสร้างของบ้าน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องปลวกและเชื้อรา ซึ่งเกิดจากการดูดซึมความชื้นขึ้นมาจากผืนดิน วิธีแก้ไขคือ ต้องสร้างบ้านในลักษณะที่ยกสูงห่างจากพื้นดินประมาณ 1-1.5 เมตร จึงจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวลงได้ค่ะ
4.พื้นที่ใช้สอยน้อย
ด้วยพื้นที่ใช้สอยอันจำกัดของตัวบ้าน ที่ถูกแบ่งห้องแบ่งโซนไว้เป็นที่เรียบร้อย หากมีญาติมาเยี่ยม หรือมาขออาศัยอยู่ด้วย จะไม่มีห้องสำหรับรองรับแขกเลย แม้กระทั่งพื้นที่สำหรับเก็บซ่อนของก็แทบจะไม่มี และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้หลายคนมองข้ามแบบบ้านประเภทนี้ไป ฉะนั้น ตอนวางแปลนบ้านอาจจะต้องเผื่อจำนวนห้องไว้รับแขกบ้างก็ดีนะคะ
สำหรับการสร้าง บ้านชั้นเดียว เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศของความอบอุ่น เนื่องด้วยลักษณะบ้านที่มีห้องอยู่รวมกันในชั้นเดียว ทำให้คนในบ้านพบปะกันได้สะดวก ซึ่งรวมไปถึงผู้ป่วยที่ใช้วีลแชร์ด้วยค่ะ เพราะเขายังเดินไปยังห้องต่างๆ ได้เองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขึ้นลงบันได แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัด คือ เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม คุณจะไม่มีที่ไว้สำหรับเก็บข้าวของ ซึ่งอาจทำให้ทรัพย์สินเสียหายได้ เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังคิดอยากสร้างบ้านไม่มากก็น้อยนะคะ

การคมนาคมขนส่ง
ทางบก
ทศวรรษ 2500 ที่เริ่มมีการขยายตัวการของทางหลวง อันได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาโดยมีเหตุผลเรื่องความมั่นคงแฝงอยู่เบื้องหลังการเดินทางดังกล่าว ทำให้แต่ละจังหวัดถูกเชื่อมกันด้วยเส้นทางหลวง จากจังหวัดสู่จังหวัด และยังอาจรวมไปถึงจากจังหวัดไปสู่ตัวอำเภอต่าง ๆ อีกด้วย เส้นทางขึ้นเหนือ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากกรุงเทพฯ สู่ จังหวัดเชียงราย
นอกจากนั้นยังมี “โครงการทางหลวงเอเชีย” ที่เป็นความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อที่จะพัฒนาการเชื่อมโยง เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรม ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการค้าสำคัญด้วยกัน ประเทศที่เกี่ยวข้องได้แก่ กัมพูชา ไทย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว อัฟกานิสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย และอิหร่าน ความร่วมมือเกิดจาก คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชีย และตะวันออกไกล (ECAFE ปัจจุบันคือ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ESCAP) ในปี 2502 ต่อมาจีน พม่าและมองโกเลียได้ร่วมโครงการในปี 2531-2533 ทางหลวงเอเชียที่ผ่านประเทศไทยสายประธานที่เกี่ยวกับภาคเหนือมี 3 สายนั่นคือ
- สาย A-1 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เลี้ยวไปบรรจบกับ ทางหลวงหมายเลข 1 ที่ตาก แล้วลงไปยังนครสวรรค์
- สาย A-2 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าเชียงรายแล้วลงมาตามทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งผ่านจังหวัดลำปาง
- สาย A-3 เริ่มจากแยกสาย A-2 ที่เชียงราย ออกไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 เพื่อเลี้ยวไปจดเขตแดนลาว ที่ อำเภอเชียงของ
ขณะที่ทางหลวงหมายเลขที่ 11 ที่เชื่อมลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ตัดผ่านในต้นทศวรรษ 2510
จังหวัดลำปางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 600 กิโลเมตร จากเส้นทางสายเอเชีย (ถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์กำแพงเพชร ตาก เข้าสู่ลำปาง ถนนเป็นถนนสี่เส้นทางการจราจรตลอดทาง หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกจากถนนพหลโยธิน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ เข้าสู่ลำปาง สิ้นสุดปลายทางที่เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางรถส่วนตัวประมาณ 7-8 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัด
การขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางภายในจังหวัดมีรถให้บริการที่คนลำางเรียกกันว่า “รถสี่ล้อ” แบ่งเป็น 2 ประเภท
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีเหลือง-เขียว เส้นทางภายในตัวเมือง สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีน้ำเงินและสีฟ้า เส้นทางระหว่างอำเภอ สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
รถโดยสารประจำทางระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
รถประจำทางจากกรุงเทพฯ-ลำปาง สามารถเดินทางได้จาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) มีรถให้เลือกหลายบริษัทหลายระดับ ขณะที่การเดินทางออกจากลำปาง ใช้สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง สังกัดเทศบานครลำปาง ณ ถนนจันทรสุรินทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง โดยรถประจำทางมีเส้นทางเดินรถดังนี้
สายกรุงเทพฯ
- สาย 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บลูไนน์ (กรีนบัส)
- สาย 13 กรุงเทพ-ฝาง-บ้านท่าตอน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-เชียงใหม่-แม่ริม-ฝาง-แม่อาย-บ้านท่าตอน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นิววิริยะยานยนต์ทัวร์
- สาย 18 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ วิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ ศรีทะวงศ์ทัวร์ ลิกไนท์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ แอมบาสเดอร์ทัวร์ อินทราทัวร์
- สาย 90 กรุงเทพ-เชียงราย (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 91 กรุงเทพ-ลำปาง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ นครชัยแอร์ วิริยะทัวร์
- สาย 924 กรุงเทพ-ลำพูน (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. เชิดชัยทัวร์
- สาย 964 กรุงเทพ-ดอยเต่า-จอมทอง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ดอยเต่า-จอมทอง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
- สาย 9911 กรุงเทพ-ลำพูน (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
สายภาคกลาง
- สาย 114 นครสวรรค์-เชียงใหม่ (นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (ถาวรฟาร์ม)
- สาย 155 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์ ศรีทะวงค์ทัวร์
- สาย 132 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 623 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
สายตะวันออก
- สาย 659 ระยอง-พัทยา-เชียงใหม่ (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (รถด่วนพิเศษ VIP) (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ
- สาย 175 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายเก่า) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ ภูหลวงทรานสปอร์ต
- สาย 587 อุบลราชธานี-เชียงใหม่ (อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-บัวใหญ่-ชัยภูมิ-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายใหม่) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 635 นครราชสีมา-เชียงใหม่ (นครราชสีมา-สีคิ้ว-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 636 เชียงใหม่-อุดรธานี (อุดรธานี-หนองบัวลำภู-วังสะพุง-เลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย-นครไทย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ จักรพงษ์ทัวร์ อ.ศึกษาทัวร์
- สาย 874 เชียงใหม่-ขอนแก่น-อุบลราชธานี (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-หล่มสัก-ชุมแพ-ขอนแก่น-โกสุมพิสัย-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-เสลภูมิ-ยโสธร-คำเขื่อนแก้ว-เขื่องใน-อุบลราชธานี) บริษัท เพชรประสริฐ จำกัด
- สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-สว่างแดนดิน-พังโคน-สกลนคร-นครพนม) บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด
สายใต้
- สาย 779 ภูเก็ต-เชียงใหม่ (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-หัวหิน-ชะอำ-เพชรบุรี-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 871 เชียงใหม่-หัวหิน (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-นครสวรรค์-ชัยนาท-อู่ทอง-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี-หัวหิน) บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด
สายตะวันตก
- สาย 875 เชียงใหม่-กาญจนบุรี (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี) บริษัท ศศนันท์ ทรานสปอร์ต จำกัด
สายเหนือ
- สาย 144 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-ม.ราชภัฏลำปาง-แม่ทะ-แม่แขม-ลอง-แพร่) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด (รถตู้ปรับอากาศ)
- สาย 145 ลำปาง-เชียงใหม่ (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ห้างฉัตร-ลำปาง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 146 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 147 เชียงใหม่-พาน (เชียงใหม่-ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 148 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 149 เชียงใหม่-ลำปาง-แม่สาย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-แม่สาย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 167 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ-เวียงป่าเป้า-แม่สรวย-เชียงราย) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด
- สาย 169-2 เชียงใหม่-น่าน-ทุ่งช้าง (เชียงใหม่-ลำปาง-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 672 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-เวียงป่าเป้า-เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-เถิน-บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 673 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-พะเยา-ม.พะเยา-อ.งาว-ลำปาง-อ.เถิน-อ.บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1661 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย-สามเหลี่ยมทองคำ (ข) (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1693 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-แม่แขม-เด่นชัย-สูงเม่น-แพร่) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส) (รถตู้ปรับอากาศ)
ทางรถไฟ
เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 2459 ณ สถานีรถไฟนครลำปาง
สถานีรถไฟ
ศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปาง ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง สถานีรถไฟนครลำปาง เปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก – ลำปาง และ อุตรดิตถ์ – ลำปาง ก่อนมีรถด่วน สายเหนือตรงจากกรุงเทพ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465
พ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้ รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น พื้นที่ของสถานีรถไฟนครลำปาง มีประมาณ 161 ไร่ มีตัวอาคารสถานี คลังสินค้า พื้นที่เก็บหัวรถจักรและตัวรถไฟ รวมถึงพื้นที่บ้านพักพนักงาน อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538